เชิญชวนทุกท่านร่วมงานนิทรรศการ “ด้วยรักและห่วงใย ปันน้ำใจสู่พิจิตร” ที่ตลาดบองมาเช่ ระหว่างวันที่ 12-13-14 กุมภาพันธ์ 2559 ทาง “เครือข่ายประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ” (ปปท.) มีการจัดแสดงพื้นที่แต่ละโซน ดังนี้
1.
โซนแสดงภาพถ่ายและจุดรับบริจาค
1.1
แสดงภาพถ่ายด้วยการนำภาพถ่ายกิจกรรมบริจาคน้ำดื่ม-ข้าวสาร-อาหารแห้ง
ทั้ง 3 ครั้ง
1.2
มีภาพถ่ายขนาดเท่าโปสการ์ด
เพื่อให้ผู้บริจาค ได้เขียนให้กำลังใจผู้ได้รับผลกระทบ
1.3
จุดรับบริจาค โดยจะขอรับบริจาคเป็น
“น้ำดื่ม-ข้าวสาร-อาหารแห้ง” (งดรับบริจาคเป็นเงิน)
2.
โซนแสดงภาพวาด = นำภาพวาดพร้อมใส่กรอบ ตั้งแสดงบนฟางก้อน (โดยจัดให้มีความสูงไม่เกินระดับหน้าอก)
จำนวน 20-30 ภาพ เพื่อนำรายได้ไปจัดซื้อน้ำดื่ม-ข้าวสาร-อาหารแห้ง ให้กับผู้ได้รับผลกระทบ
และนำไปจัดทำหนังสือให้ความรู้ประชาชนต่อไป
3.
โซนแสดงนิทรรศการให้ความรู้แร่ทองคำและการทำเหมืองทองคำในประเทศไทย
“เหมืองทองคำ คนไทยควรรู้”
3.1
แสดงข้อมูลเกี่ยวกับแร่ต่างๆ
รวมถึงทองคำ และการทำเหมืองแร่ทองคำในประเทศไทย
3.2
นำก้อนแร่ สินแร่ ต่างๆ
ที่มีแร่ทองคำเป็นส่วนประกอบ
3.3
จุดถ่ายภาพ
4.
กิจกรรมต่างๆ ดังนี้
4.1
การทำกัวซา เพื่อถอนพิษในร่างกาย
อันเป็นการบำบัดผู้ได้รับผลกระทบรอบเหมืองทองคำ
4.2
การนำสินค้าทางการเกษตรของจังหวัดที่ยังไม่ได้รับผลกระทบ
แต่มีการรุกล้ำและเริ่มดำเนินการขออนุญาตการทำเหมืองทองคำแล้ว
มาจำหน่ายเพื่อประชาสัมพันธ์ให้เห็นทางอ้อมว่า หากมีการทำเหมืองทองคำครบ 31
จังหวัด พื้นที่เกษตรกรรมของไทยจะหายไปจำนวนมาก
อีกทั้งผลผลิตเหล่านี้จะยังมีสารปนเปื้อนส่งจำหน่ายให้กับทุกคนในประเทศไทย
ซึ่งสารปนเปื้อนเหล่านั้น (ความรู้จากนิทรรศการ) เป็นสารก่อมะเร็ง
และโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเกษตรเพื่อชดเชยค่าเดินทางของบุคคลากรที่มาร่วมงานจากต่างจังหวัด
4.3
การจำหน่ายสบู่สมุนไพร ซึ่งคณะชี
คณะสงฆ์ และศิษย์จิตอาสา จากวัดป่าสันติธรรม จ.สระบุรี (ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่มีการสำรวจแร่ทองคำและกำลังจะมีการไล่ที่)
ที่ร่วมกับทำสบู่มาจำหน่ายช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ
4.4 กิจกรรมให้ความรู้เรื่องแร่ทองคำ และสินแร่ต่างๆ ที่มีทองคำอยู่ด้วย บนเวที โดยก่อนเริ่มกิจกรรม ให้ผู้ร่วมงานไปชมนิทรรศการแล้วมาฟังและตอบคำถาม ทางเราจะนำของรางวัลแจกเมื่อตอบคำถามถูกต้อง
4.4 กิจกรรมให้ความรู้เรื่องแร่ทองคำ และสินแร่ต่างๆ ที่มีทองคำอยู่ด้วย บนเวที โดยก่อนเริ่มกิจกรรม ให้ผู้ร่วมงานไปชมนิทรรศการแล้วมาฟังและตอบคำถาม ทางเราจะนำของรางวัลแจกเมื่อตอบคำถามถูกต้อง
.........................................
ชื่อโครงการ: นิทรรศการ “ด้วยรักและห่วงใย ปันน้ำใจสู่พิจิตร”
ผู้รับผิดชอบ: ประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ
(ปปท.)
ผู้ประสานงาน: นายปรีดา ลิ้มนนทกุล (ที่ปรึกษา ปปท.) มือถือ
086-314-7866
ความเป็นมา:
ประเทศไทยมีสายแร่ทองคำ (Gold Belt) ทางฝั่งอีสานตอนบน (จ.เลย) พาดผ่านหลายจังหวัดลงมา (จ.พิษณุโลก
จ.เพชรบูรณ์ จ.พิจิตร) จนถึงภาคกลาง (จ.นครสวรรค์ จ.ลพบุรี จ.สระบุรี)
ผ่านจนไปถึงภาคตะวันออก (จ.สระแก้ว จ.ระยอง จ.จันทบุรี) บางส่วนจนถึงภาคใต้ (จ.สุราษฎร์ธานี จ.สตูล) และกำลังมีการสำรวจ คาดว่าอาจจะมีทองคำซึ่งปะปนอยู่กับแร่อีกหลายชนิดมากถึง 31
จังหวัด แต่การถลุงแร่ทองคำนั้นมีผลเสียมากกว่าได้ สำคัญๆ เช่น
1.
ตามธรรมชาติสารหนู สารแคดเมียม
สารโลลหะหนักหลายชนิด จะอยู่คู่กับทองคำ การนำทองคำขึ้นจากชั้นดินและหินนั้น
จะทำการระเบิดหน้าดินและชั้นหิน ทำให้เกิดการฟุ้งกระจายของสารหนู สารโลหะหนักต่างๆ
2.
การถลุงแร่ทองคำต้องใช้สารพิษไซยาไนต์ในการสกัดเนื้อทองคำออกจากชั้นดินหรือหิน
โดยจะนำสารพิษไปทิ้งในบ่อเก็บกากแร่ ซึ่งมีการบริหารจัดการเป็นแบบบ่อเปิด ทำให้มีการระเหยออกปะปนในอากาศและตกลงพื้นดินทำให้พืช
สัตว์ มนุษย์ ได้รับสารพิษสะสม เซลล์มีการเปลี่ยนแปลง
เป็นสาเหตุสำคัญทำให้เป็นมะเร็ง
3.
ทั้งสารโลหะหนักที่มีตามธรรมชาติ
แต่ต้องกลับมาฟุ้งกระจาย และการใช้สารพิษไซยาไนต์ในการสกัดทองคำ
ทำให้เกิดมลพิษกับสิ่งแวดล้อมรอบบริเวณเหมือง พืชเศรษฐกิจทั้งหมด เช่น ข้าวสาร
มะม่วง ผลไม้ต่างๆ จะมีสารปนเปื้อน และเป็นสาเหตุทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง
เป็นมะเร็ง ซึ่งชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบทราบเรื่องนี้ดี จึงไม่ทาน
แต่ส่งออกไปนอกพื้นที่ ดังนั้นหากการทำเหมืองทองคำและแร่ต่างๆ กระจายไปถึง 31 จังหวัด
ย่อมส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตรที่พลเมืองทั่วประเทศจะได้รับผลกระทบในวงกว้าง
รวมถึงกระทบการส่งออก
4.
ค่าภาคหลวงที่ได้รับจากการทำสัมปทานมีมูลค่าน้อยมาก
เมื่อเทียบกับมูลค่าทองคำ เกิดกระบวนการทุจริตระหว่างการดำเนินการ ทั้งในระดับประเทศ ในระดับพื้นที่จังหวัด และระดับปฏิบัติการ
5.
การเตรียมพื้นที่สำหรับทำเหมืองทองคำ เนื่องจากการสำรวจพบว่า
ทองคำอยู่ใต้พื้นที่ภาคเกษตรและป่าต้นน้ำ จึงอาจจะเกิดการร่วมมือกันของนักการเมือง
และเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง ในการทวงคืนผืนป่า
โดยอ้างสิทธิ์ในการทวงที่ดินทำกินทุกประเภทคืนจากชาวบ้าน ภบท. สปก. นส3ก.
หรือแม้แต่โฉนดที่ดิน หน่วยงานรัฐยังอ้างว่าออกผิด ขอทวงคืน เป็นต้น
อีกทั้งยังร่วมกันแก้ พรบ.แร่ฯ
ให้คณะรัฐมนตรีสามารถอนุมัติให้สัมปทานทำลายพื้นที่ต้นน้ำในป่าอนุรักษ์ได้
ความเสียหายพอสังเขป ที่ยังไม่รวมผลกระทบอื่นๆ
อีกมากมาย ทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจประเทศ เมื่อทุนนอกที่เข้ามาทำสัมปทานไปแล้ว
จะทิ้งแผ่นดินที่เต็มไปด้วยสารพิษ ความแห้งแล้ง ความเจ็บป่วย ความทุกข์ทรมาน
ให้กับสิ่งมีชีวิต สัตว์เลี้ยง พืชสวนครัวที่ทานไม่ได้
ชาวบ้านที่เจ็บป่วยจากร่างกายภายนอกและภายใน
การนำเสนอโครงการ:
เนื่องจากพลเมืองของ
12 จังหวัด (เลย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี สระแก้ว
ระยอง จันทบุรี สุราษฎร์ธานี สตูล ตระหนักถึงผลกระทบในวงกว้างกรณี “โมเดลพิจิตร” ที่ชุมชนล่มสลาย
ชาวบ้านรอบเหมืองเจ็บป่วยล้มตาย จึงได้รวมตัวกันจัดตั้ง “ประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ
(ปปท.)” ขึ้น
โดยมีภารกิจสำคัญในการเป็นศูนย์กลางการให้ความรู้และประชาสัมพันธ์กับประชาชนทั้งประเทศ
ในด้านผลกระทบจากทรัพยากรเหมืองแร่ และทองคำไทย
จึงได้มีความคิดริเริ่มที่จะนำข้อมูล ข้อเท็จจริง ของการทำเหมืองแร่ทองคำ และกิจกรรมในการขับเคลื่อนออกเผยแพร่ให้กับกลุ่มประชากรในเขตกรุงเทพฯ
ปริมณฑล เพื่อให้สังคมเมืองส่วนกลางได้รับทราบ และตระหนักรู้ ตื่นรู้
เช่นเดียวกันกับจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ และจังหวัดที่กำลังจะได้รับผลกระทบ
ซึ่งท้ายที่สุดแล้วหากทุกฝ่ายไม่ร่วมกันต่อต้านช่วยเหลือกัน
ทุกคนในประเทศจะได้รับผลกระทบร่วมกันผ่านอาหารที่ต้องบริโภคทุกวัน อาจทำให้เสี่ยงที่จะเป็นโรคผิวหนังรุนแรง เซลล์มีการเปลี่ยนแปลง อาจนำไปสู่การเป็นมะเร็งในที่สุดสำหรับผู้บริโภคทั่วประเทศ
ดังนั้นทางกลุ่ม
ปปท. จึงได้ขอความอนุเคราะห์ ทางห้างหุ้นส่วนจำกัด รัจนาการ (2530)
ในการจัดงานนิทรรศการ “ด้วยรักและห่วงใย ปันน้ำใจสู่พิจิตร” ที่ บองมาเช่
มาร์เก็ตตพาร์ค โดยแบ่งพื้นที่จัดงานเป็น 3 โซน ดังนี้
1.
โซนที่ 1
จัดแสดงภาพวาดจากศิลปินที่บริจาคภาพวาด และจำหน่าย/ เบื้องต้น นายปรีดา ลิ้มนนทกุล
จะวาดภาพวาดกาแฟ และจะติดต่อขอภาพกับศิลปินที่รู้จักเป็นการส่วนตัวอีก
3-5 ท่าน ในการร่วมบริจาคภาพวาด
2.
โซนที่ 2 จัดแสดงความรู้การทำเหมือง
ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ ผลกระทบทั้งในและต่างประเทศ มีการแสดงตัวอย่างแร่ ชนิดต่างๆ
ที่อยู่คู่กับทองคำ
3.
โซนที่ 3 จุดรับบริจาคน้ำดื่ม ข้าวสาร
อาหารแห้ง ที่ลูกค้า และผู้ใช้บริการของบองมาเช่ อุดหนุนจากผู้ค้าในบองมาเช่
มาบริจาคให้กับผู้ได้รับผลกระทบรอบเหมือง โดยจะมีการจัดแสดงภาพถ่ายจากกิจกรรม
“ด้วยรักและห่วงใย ปันน้ำใจสู่พิจิตร ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3” (โดยภาพที่แสดงจะมีทิศทางเป็นภาพที่สร้างสรรค์
แสดงถึงความมีน้ำใจ การช่วยเหลือกันของผู้มีน้ำใจต่อผู้ได้รับผลกระทบ
ซึ่งทางบองมาเช่ เข้ามีส่วนร่วมในการคัดเลือกภาพ ตัวอย่างภาพท้ายเอกสารโครงการฯ) และจะมีภาพถ่ายขนาดโปสการ์ดให้ผู้บริจาคเขียนให้กำลังใจผู้ได้รับผลกระทบ
ระยะเวลาในการจัดแสดงนิทรรศการ:
จัดขึ้นในงาน “เทศกาลแห่งความรัก” ที่ตลาดบองมาเช่
ระหว่างวันที่ 12-14 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 10.00-17.00 น. (ศุกร์ – อาทิตย์)
และจะทำการขนสิ่งของบริจาคไปยังจุดบริจาคที่พิจิตร ในวันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์
2559 ต่อไป
วัตถุประสงค์:
1.
เพื่อสร้างการตระหนักรู้ ตื่นรู้
ถึงข้อเสียของการทำเหมืองแร่ทองคำ ให้กับกลุ่มผู้ใช้บริการบองมาเช่
ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
2.
เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมในการบริจาค
และให้กำลังใจ กับผู้ได้รับผลกระทบรอบเหมือง
3.
เพื่อนำของบริจาคไปมอบให้กับผู้ได้รับผลกระทบรอบเหมือง
และจัดนิทรรศการภาพถ่ายการดำเนินการโครงการฯ และนิทรรศการ
การเขียนให้กำลังใจในภาพถ่าย ไปแสดงที่ ต.ทับคล้อ จ.พิจิตร
เพื่อให้กำลังใจผู้ได้รับผลกระทบรอบเหมือง