แถลงการณ์คัดค้านเสียงผู้สนับสนุนเหมืองและขอความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนรอบเหมืองแร่ทองคำในการดำเนินการแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อ
4 รัฐมนตรี
เครือข่ายประชาสังคมปฎิรูปทรัพยากรและทองคำ
วันที่ 23 เมษายน 2559
วันที่ 23 เมษายน 2559
เรื่อง
ขอความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนรอบเหมืองแร่ทองคำในการดำเนินการแก้ไขปัญหาผลกระทบรอบ
เหมืองแร่ทองคำ 3 จังหวัด พิษณุโลก,พิจิตร,เพชรบูรณ์และคัดค้านการนำเสียงผู้สนับสนุนเหมืองเนื่องจากเป็นกลุ่มบุคคลของบริษัทอัคราฯและครอบครัวซึ่งมิอาจเป็นตัวแทนของเสียงประชาชนที่ตัดค้านของคนในประเทศ
เรียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
เนื่องจากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานประกอบการเหมืองแร่ทองคำ
บริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด(มหาชน)และมีกำหนดการรัฐมนตรี 4 กระทรวงพบปะพูดคุยกับประชาชนกลุ่มผู้คัดค้านเหมืองแร่ทองคำจำนวน
30 นาทีดังที่ประชาชนได้ทราบแล้วนั้น
ในการนี้ในฐานะตัวแทนประชาชนขอเรียนมายังเพื่อทราบว่าการดำเนินการตรวจสอผลกระทบดังกล่าวตามคำสั่งของท่านประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีดังกล่าวนั้น การลงพื้นที่ในระยะเวลาอันสั้นอันเป็นเหตุให้ท่านได้พบข้อเท็จจริงเป็นบางส่วนซึ่งขณะนี้มีประชาชนเจ็บป่วยรอบเหมืองแร่ทองคำ 3 จังหวัดได้แก่พิษณุโลก,พิจิตร,และเพชรบูรณ์ หลายคนส่วนใหญ่เป็นโรคมะเร็งและก่อนหน้านี้นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2558 จนถึงปัจจุบันมีผู้เสียชีวิต 70 รายแล้วและการดำเนินการแก้ไขไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการป้องกันการทุจริตแห่งชาติได้ตั้งไต่สวนคดีเหมืองแร่ทองคำเป็นคดีสินบนข้ามชาติทั้งอาจติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ตั้งเป็นคดีพิเศษด้านสิ่งแวดล้อมประกอบกับการดำเนินงานที่ผ่านมามีนัยยะไม่ปรกติหลายประการรวมถึงการตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่ายซ้ำซ้อนกับกรรมการ 5 ฝ่ายตามคำสั่งเดิมของท่านประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอันจะเกิดการล่าช้าและอาจเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการทำหนังสือคัดค้านไว้แล้วเบื้องต้นของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงคณะกรรมการการป้องกันการทุจริตแห่งชาติล่าสุดกระทรวงอุตสาหกรรมและเสนอร่าง
พรบ.แร่เข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติรับหลักการไว้แล้วและปรากฎว่าจะเร่งนำผลการแก้ไขปัญหาของจังหวัดพิจิตรเข้าสู่
ครม.รวมถึงการผลักดันนโยบายทองคำ 12
จังหวัดที่ผ่านมาและแผนผลักดันเศรษฐกิจแร่ 5 ชนิดประกอบด้วยแร่ทองคำและแร่ควอซที่หยุดชะงักไว้ก่อนเพื่อรอผลการแก้ไขปัญหาจังหวัดพิจิตรเช่นกันและที่สำคัญการแก้ไขปัญหาจังหวัดพิจตรนี้น่าจะนำไปประกอบเป็นหลักฐานอ้างอิงในการอนุมัติอนุญาตการต่อใบประกอบโลหะกรรมทองคำที่จะหมดอายุในวันที่
13 พฤษภาคม 2559 นี้
จึงเป็นการสรุปสาระสำคัญได้ว่าการแก้ไขปัญหาที่จังหวัดพิจิตรคือกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนให้ดำเนินการเกิดการผลักดันให้มีการปลดล็อคนโยบายทองคำอันจะนำไปสู่การให้สัมปทานทองคำรวมถึงการนำไปประกอบร่าง
พรบ.
แร่ที่อยู่ในสภานิติบัญญัติแห่งชาติในขณะนี้และการต่อใบอนุญาตโรงประกอบโลหะกรรมทองคำซึ่งมีข้อพิรุจที่ผ่านมาหลังจากร่าง
พรบ.แร่ที่เข้าสู่ สนช.ได้มีการเร่งจัดประชุมในวันที่ 23มีนาคม 2559 ที่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
ข้าพเจ้าและตัวแทนประชาชนจำนวน 30 คนได้เข้าไปคัดค้านการประชุมจนเป็นเหตุให้มีการระงับการประชุมดังกล่าวเนื่องจากการประชุมโดยเร่งรีบทำให้ไม่มีผู้เข้าร่วมประชุมให้ครบมีเพียงตัวแทนจากบริษัทอัคราฯและนักวิชาการเพียงไม่กี่ท่าน
เหตุการณ์ในวันนั้นนอกจากตัวข้าพเจ้าและตัวแทนประชาชนที่คัดค้านยังมี
ผศ.ดร.สิตางศุ์ พิลัยหล้า ได้ทำหนังสือคัดค้านลงเลขรับ น-01101167 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2559
เพื่อขอให้การประชุมดังกล่าวเป็นโมฆะเมื่อข้าพเจ้าเห็นว่าการดำเนินดังกล่าวมีข้อพิรุจสงสัยอาจเป็นการเอื้อประโยชน์จึงได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานและได้ส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไปจึงเรียนมายังท่านเพื่อโปรดดำเนินการหาข้อเท็จจริงเพื่อความเป็นธรรมต่อประชาชนจำนวนมากบริเวณรอบเหมืองแร่ทองคำ
3 จังหวัด
เริ่มจากก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าและตัวแทนประชาชนได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุขให้นำเรื่องนี้ซึ่งเป็นความเดือดร้อนของประชาชนเข้าสู่
ครม. แต่มิทราบว่าได้ดำเนินการให้ประชาชนด้วยแล้วหรือไม่อย่างไรการลงพื้นที่ในครั้งนี้จึงมิใช่การแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและขอคัดค้านการรับฟังเสียงประชาชนผู้สนับสนุนเหมืองเนื่องจากเป็นกลุ่มของคนงานของบริษัทอัคราฯ
และครอบครัวที่ถูกเกณฑ์มาเพื่อเป็นเสียงสนับสนุนเป็นการเดินหน้าจากเหมืองอัคราฯ
เพิ่อสร้างความชอบธรรมในการอนุมัติอนุญาตการทำเหมืองแร่ทองคำเนื่องจากบุคคลดังกล่าวเป็นพนักงานเป็นกลุ่มที่มีส่วนได้ส่วนเสียเองอยู่ใต้ข้อบังคับคำสั่งของบริษัทอัคราฯในฐานะผู้ว่าจ้างซึ่งพนักงานดังกล่าวมิอาจปฎิเสธได้เนื่องจากเกรงจะถูกออกจากงานแต่ในข้อเท็จจริงที่ผ่านมาพบว่าคนงานเหล่านั้นได้ตรวจพบสารโลหะหนักหลายชนิดในร่างกายจากผลการตรวจของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และมหาวิทยาลัยรังสิตแต่กลับต้องมาถือป้ายเรียกร้องสนับสนุนเอาเหมืองเสียงของบุคคลทั้งหมดเหล่านั้นจึงเป็นเสียงที่ไม่ได้เกิดจากความชอบธรรมหากเป็นเสียงจากภาวะจำยอมจึงขอคัดค้านเสียงเหล่านั้นไม่ให้นำเสียงเหล่านั้นมาประกอบเพื่อสร้างความชอบธรรมในการดำเนินการเกี่ยวกับเหมืองแร่ทองคำต่อไปอีกเพื่อลดความแตกแยกในชุมชนและคืนสิทธิเสรีภาพการแสดงออกของประชาชนอย่างแท้จริงและการที่ท่านไปรับฟังเอาเสียงของคนที่เอาเหมืองอาจเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมายอาจเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเนื่องอาจไปประกอบการเห็นชอบการไปอนุมัติอนุญาตที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้อาจไปกระทบสิทธิ์ของประชาชนในหลายๆจังหวัด
ดังนั้นกลุ่มบุคคลที่ไม่เอาเหมืองแร่ทอง
คำคัดค้านสัมปทานทองคำ คัดค้านนโยบายทองคำ คัดค้านร่าง พรบ.แร่รวมถึงการคัดค้านการต่อใบประกอบโลหะกรรมทองคำอาจจะมีจำนวนมากมายถึง
60ล้านคนในประเทศไทยมิใช่เพียงประชาชนในจังหวัดพิจิตร,เพชรบูรณ์ ที่ท่านมารับฟังเสียงเพียงเท่านั้น
จึงเรียนมายังท่านเพื่อโปรดดำเนินการด่วนที่สุด
จึงเรียนมายังท่านเพื่อโปรดดำเนินการด่วนที่สุด
ขอแสดงความนับถือ
(นางอารมย์ คำจริง)
ประธานเครือข่ายประชาสังคมและปฎิรูปทรัพยากรและทองคำ
ประธานเครือข่ายประชาสังคมและปฎิรูปทรัพยากรและทองคำ
(นางวันเพ็ญ พรมรังสรรค์)
รองประธานเครือข่ายประชาสังคมปละปฎิรูปทรัพยากรและทองคำ
รองประธานเครือข่ายประชาสังคมปละปฎิรูปทรัพยากรและทองคำ